6  Steps to be Fashion Designer
บันได 6 ขั้นสู่อาชีพนักออกแบบแฟชั่นเสื้อผ้ามือพระกาฬ 




ปัจจุบันนี้ จะสังเกตเห็นว่าหลายคนพยายามเสียเวลา ค้นหาความสนใจ  หาแรงบันดาลใจ  ความถนัดของตัวเองว่าจะเก่งถนัดด้านไหน  แต่เชื่อไหม “นักออกแบบ”  เป็นกลุ่มอาชีพต้นๆ ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง  แต่นักออกแบที่ว่าก็มีด้วยกันหลายสาขาทั้ง ออกแบบแฟชั่นดีไซน์,  ออกแบบศิลปะวัตถุ, ออกแบบอัญมณี, ออกแบบแอนนิเมชั่น ฯลฯ แต่ไม่ว่าจะออกแบบสาขาไหนก็ตามต้องอาศัยทั้งพรสวรรค์ และพรแสวงควบคู่กันเสมอ แล้วถ้าเราจะมาพูดถึงเฉพาะอาชีพนักออกแบบแฟชั่นล่ะ  คนประเภทไหน หรือแต่ละคนต้องทำอย่างไรถึงได้ขึ้นชื่อว่า   “นักออกแบบแฟชั่นเสื้อผ้ามือพระกาฬ”  มาถอดบทเรียน สังเคระห์กันดูว่า คุณๆ มีครบ 6 ข้อดังต่อไปนี้หรือไม่

Step 1 : Originality  มีความคิดสร้างสรรค์ในแบบของตนไม่ซ้ำใคร
สำหรับนักออกแบบแฟชั่นเสื้อผ้าแล้ว  การมีความคิดสร้างสรรค์ที่หลุดโลก แต่ประยุกต์ได้กับโลกแห่งความจริง ถือว่าเป้นสิ่งที่สำคัญที่สุด  และทุกคนจะเริ่มเป็นนักออกแบบแฟชั่นเสื้อผ้าไม่ได้เลยถ้าขาดสิ่งนี้ “ความคิดสร้างสรรค์ ในแบบของตน หรืออัตลักษณ์ตัวเองที่ไม่ซ้ำ ลอกเลียนแบบใคร  พูดง่ายๆ คือ ยิ่งคิดคนแรก ย่อมมีโอกาสเป็นผู้นำแฟชั่นได้ไม่ยาก



Step 2 : Sketching การร่างความคิดสร้งสรรค์นั้นๆ โดยการสเก็ตซ์ภาพ
สิ่งที่สำคัญรองต่อมาจากการเกิดความคิดสร้างสรรค์แล้ว คือ “การร่างความคิดสร้งสรรค์นั้นๆ โดยการสเก็ตซ์ออกมาให้เป็นภาพเสมือน  มีชีวิต  สีสันอยู่บนกระดาษ ก่อนวาดภาพ แต่สี ปรับปรุงแก้ไขแบบให้ตรงความต้องการที่สุด ก่อนที่จะกลายร่างเป็นชิ้นงานจริงในอนาคต





Step 3 : Pattern การวาดแบบทำแพทเทิร์น
สำหรับขั้นตอนนี้  ในยุคปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีด้านสารสนเทศก้าวไกลไปมาก นักออกแบบแพทเทิร์นจึงมีหลายตัวช่วยให้เลือกใช้เหมาะสมตามความต้องการ โอกาส ระยะเวลา ฯลฯ แล้วตัวช่วยนักแพทเทิร์นได้อย่างไร
ตัวช่วยที่ 1 Manual Pattern  ก็คือวิธีการออกแบบแพทเทิร์นของนักออกแบบสมัยเก่าที่ออกแบบแพทเทิร์นด้วยการร่างมือเอง  มีการวัดขนาด กำหนดขนาด  กำหนดองค์ประกอบเอง ในทุกองค์ประกอบของชิ้นงาน ซึ่มีข้อดีที่มีความถูกค้อง ยืดหยุ่นดูเป็นธรรมชาติเวลาสวมใส่ แต่มีข้อเสียใช้เวลา ยุ่งยากมากกว่า แต่เชื่อไหมวิธีนี้กลับเป็นวิธีที่ช่างแพทเทิร์นมืออาชีพฉมังเลือกใช้มากที่สุด
ตัวช่วยที่ 2 Pattern Software/Application    ใช่แล้วจะเรียกว่าเป็นช่างแพทเทิร์นโรบอทก็ไม่ผิด  เพราะปัจจุบันนี้มีนักพัฒนาออกแบบโปรแกรม  ได้พัฒนาโปรแกรมออกแบบแพทเทิร์นสำเร็จรูปมาให้นักแพทเทิร์นทั้งมือใหม่ และมืออาชีพเลือกใช้ แต่วิธีนี้ส่วนมากนักแพทเทิร์นมือใหม่ / มือสมัครเล่นมักเลือกใช้มากกว่า   เพราะทุ่นทั้ง แรง เวลา เพราะนักแพท เทิร์นมือใหม่ส่วนมากยังขาดความแม่นยำในเรื่องของ  การคาดคะเนองค์ประกอบ การวัดขนาดยังไม่แม่นยำเพียงพอ แล้วอยากรู้ไหม โปรแกรมอะไรที่ได้รับความนิยมในการใช้งานมากสุด นั่นก็ได้แก่  CAD Pattern Design, Poly Pattern Design, Fashion Design Software, TexPro Design CAD System Textile หรือ Lectra Modaris Pattern นั่นเอง อ้าวใครเคยลองใช้ตัวไหนแล้วบ้าง แชร์ความคิด ประสบการณ์กันได้นะ



Step 4 : Texture การเลือกเนื้อผ้า
ก่อนที่จะเสื้อผ้าแฟชั่นจะดูโดเด่น อลัง เก๋หรู ครบทั้งแพทเทิร์น  สี  สไตล์ การออกแบบแล้ว “เนื้อผ้าที่เหมาะสม” ก็ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ  เพราะบางครั้ง แบบเสื้อผ้า สี ที่เหมือนกันทุกอย่าง แต่ใช้เนื้อผ้าต่างประเภท  ราคาก็สามารถต่างกันลิบได้อย่างน่าอัศจรรย์ แล้วการเลือกเนื้อผ้าต้องเลือกจากอะไร  หลายท่านคงอยากทราบ สำหรับการเลือกเนื้อผ้านั้น อาศัยทั้งหลักการ  อารมณ์ขณะสวมใส่  ความชอบ ความเหมาะสม บางครั้ง อากาศ อุณหภูมิก็ต้องมีส่วนประกอบในการเลือกด้วยเช่นกัน


Step 5 : Fitting การทดลองสวมใส่จริงและตัดแก้ไข
ขั้นตอนนี้ ถือเป็นขั้นตอนสำคัญเกือบสุดท้ายก่อนเข้าสู่การผลิตตัดเย็บจริงจัง นั่นก็คือ Fitting การทดลองสวมใส่จริงและตัดแก้ไขส่วนผิดพลาด  โดยขั้นตอนนี้นายแบบ หรือนางแบบ หรือผู้สวมใส่เองจะต้องมาสวมใส่ชุดจริงที่ผลิตแบบคร่าวๆ ก่อนวัด ตัด แก้ขส่วนเว้า ส่วนโค้ง ส่วนผิดพลาดเพื่อให้เหมาะสมกับผู้ที่สวมใส่จริง เพราะถ้าแบบผลิตตามแบบที่ออกมาโดยไม่มีการ Fitting แล้วหากพบข้อผิดพลาดหลังสวมใส่ นั่นหมายถืง การนับ 1 เข้าสู่ขั้นตอนการผลิตใหม่ทั้งหมด ทำให้เสียทั้งเวลา ต้นทุนไปโดยปริยาย
เคล็ดลับระยะเวลา Fitting เสื้อผ้าก่อนวันจริง ถ้าเป็นเจ้าบ่าว เจ้าสาวก็จะประมาณ 2 – 4 สัปดาห์ (ที่สำคัญต้องควบคุมสัดส่วนด้วย) แต่ถ้าเป็นชุดออกงานเลี้ยงส่วนมากอย่างน้อยสุด 5 - 7 วัน



Step 6 : Tailor & Sewing การตัดเย็บผลิตชิ้นงาน
และแล้วก็เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายในการตัดเย็บผลิตชิ้นงาน โดยขั้นตอนนี้ก็ถือว่าต้องอาศัยทั้งความชำนาญ ละเอียด รอบคอบ ตัดเย็บให้เป้นไปตามแบบทั้งหมดที่เราได้ทำมาทั้ง 5 ขั้นตอน จะเรียกว่าเป็นการเก็บหน้างานก็ไม่แปลก เก็บตกให้ครบ แก้ทุกตะเข็บนั่นจะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้ชิ้นงานได้มาก

หากคุณทำครบ 6 Steps Up แล้วก็ก้าวสู่เวทีประชันฝีมือนักออกแบบแฟชั่นเสื้อผ้ามือพระกาฬระดับจังหวัด ประเทศ หรือยันระดับโลกก็ยังได้ แต่ แต่ !!!!! อย่ามัวแต่หลงระเริงกับรางวัล  คำชมเชย จนลืมฝึกปรือ ฝีมือ  ตามติดเทรนด์แฟชั่นที่หมุนทุกวันให้เท่าทัน ไม่เช่นนั้น  ความภูมิใจนั้นจะอยู่ให้ชื่นชมได้ไม่นาน

แต่สำหรับว่าที่นักออแบบแฟชั่นหน้าใหม่ ที่สนใจก้าวเข้าสู่วงการนี้ ถือว่าเป็นโอกาสทองไม่น้อย เพราะปัจจุบัน จะเห็นว่ามีทั้ง สถาบันอบรม เล็ก กลาง ยันระดับมหาวิทยาลัย เริ่มเปิดสอนพัฒนานักออกแบบแฟชั่นหน้าใหม่ป้อนตลาดกันมากขึ้น  แล้วสงสัยใช่ไหมจะเลือกเรียนที่ไหนดี???  ฝากข้อคิดเล็กๆ นะ
ถ้าเป็นสถาบันสอนอบรมตัดเย็บขนาดเล็ก หรือระยะสั้นๆ จะสอนแค่ ความรู้ในเชิงเทคนิค กับปฏิบัติมากกว่า เน้นจะสอนวิธีการว่าตัดเย็บอย่างไร บางโรงเรียนมีแบบแพทเทิร์นสำเร็จให้ หรือสอนเชิงพื้นๆ  ดังนั้น ผู้เรียน อาจจะไม่มีความรู้ทางทฤษฎี และประยุกต์ไปได้มากกว่าที่เรียนมในคลาสเท่าที่ควร  ส่วนมากจะเรียนเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน หรือเปิดร้านแค่ซ่อม เย็บมากกว่าตัดขึ้นรูป หรือชิ้นงาน  สำหรับค่าเรียนก็แพงเล็กน้อยขึ้นอยู่กับชื่อเสียงขอสถาบัน  ระยะเวลาก็เน้นสั้นแบบเลือกได้ เน้นนับจำนวนชั่วโมงสอน    

สำหรับสถาบันสอนอบรมการออกแบบแฟชั่นขนาดใหญ่ขึ้นไป ไปจนถึงระดับวิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัย  จะมีความแตกต่างในวิธีการเรียน  การสอนอย่างสิ้นเชิง   และสิ่งที่ผู้เรียนได้รับก็ต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน   เพราะสถาบันต่างๆ นี้ มักจะสอนให้ผู้เรียนเข้าใจทุกบริบทของคำว่า “แฟชั่น”  รู้จักอย่างลึกซึ้งตั้งแต่ที่มา ประวัติของแฟชั่น  ทุกกระบวนการในการออกแบบ  เขียนแพทเทิร์น  ขึ้นโครงชิ้นส่วนต่างๆ  ตัดเย็บ จนขึ้นรูปชิ้นงานจริง สวมใส่ได้ดูดี  รวมไปถึงการเรียนรู้  วิเคราะห์   พร้อมลงมือทำในเชิงธุรกิจอย่างจริงจัง”  ดังนั้น  ผู้ที่เรียนในสถาบันเหล่านี้จึงมีความได้เปรียบอยู่มากกว่าสถาบันแบบแรก   รูปแบบการเรียนการสอนสถาบันระดับนี้จะมีหลักสูตรที่มีเนื้อหา  ครอบคลุม  หลากหลายวิชาทั้งภาคทฤษฎี  และปฎิบัติ  แต่ละหลักสูตรมีระยะเวลายาวนาน   ค่าเล่าเรียนสูงกว่าสถาบันแบบแรก  แต่ผลประโยชน์ที่ได้รับถือว่าคุ้มค่าสูงสุดกว่า  เพราะผู้เรียนสามารถเริ่มประกอบธุรกิจได้ทันที ถ้ามีทุน สถานที่พร้อมก็ไม่มีปัญหา   ส่วนด้านการตลาดในหลักสูตรก็สอนไว้หมดแล้วทั้งด้านการสร้างตลาดแฟชั่นนั้น   ออฟไลน์  และออนไลน์  เน้นสอนตีโจทย์ตลาดให้แตก  สอนให้วิเคราะห์   ค้นหาไอเดีย  และสร้างความแตกต่างให้โดดเด่นจนเป็นผู้นำแฟชั่นได้ในแบบคุณ 

สำหรับบก. เองก็มีโอกาสได้เล่าเรียนกับสถาบันแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงด้านนี้โดยเฉพาะ  และถือว่าเป็นสถาบันสร้างนักธุรกิจด้านแฟชั่น  และการออกแบบแห่งแรกของประเทศไทย  ที่มีชื่อเสียงมาจากสิงคโปร์มาหลายสิบปี และหลายประเทศทั่วโลก  สถาบันนี้ชื่อว่า  Raffles International College Bangkok – วิทยาลัยนานาชาติราฟเฟิลส์”   และปัจจุบันมีสาขาในประเทศไทยด้วยเช่นกัน  แคมปัสใหม่ตั้งอยู่ที่บางนา  ตึกหรู  รโฐาน  สง่ามาก  สิ่งที่บก.ชื่นชอบและอยากขอบคุณที่่นี่ด้วยก็คือ  ราฟเฟิลส์เค้าสร้างโอกาสทางธุรกิจให้บก. ตั้งแต่ยังเรียนปี 2 เพราะสนามสอบของบก. คือ  มีโอกาสร่วมเดินอบบคอลเล็คชั่นตัวเองในงานเดินแบบโชว์เคสใหญ่โรงแรม 5 ดาวแห่งหนึ่ง  จนผลงานเราไปเข้าตานักลงทุนจากต่างชาติห้องเสื้อดัง  จ้างเราเป็นนักแฟชั่นดีไซน์เนอร์สัญญาจ้าง 3 ปีทันที  จนตอนนี้บก.เป็นเจ้าของห้องเสื้อเอง  ก็มีคู่ค้าในวงการระดับโลกทำงานร่วมกันอีกมาก  สำหรับอีกเหตุผลที่ บก. เลือกเรียนที่นี่ก็เพราะ พอสุดท้าย (ปี 3) บก.เลือดขอโอนเรียนที่อังกฤษ และได้รับปริญญาตรีที่ได้รับการรับรองและออกโดยมหาวิทยาลัยนอร์ธธัมเบรีย นิวคาสเซิล (Northumbria University Newcastle, UK)







Facebook I Line I IG I Youtube I Twitter
@Rafflesbkk
Google Map :






Live Up... Trend Up !!! - 8 Graphic Designs Trend in 2018

Live Up... Trend Up !!! - 8 Graphic Designs Trend in 2018


อ้าว!!!! มือเซียนกราฟฟิคดีไซน์เนอร์รีบตบเท้าอัพเดตเทรนด์การออกแบบในยุค 2018 กันดีกว่าไหม จะได้ออกแบบแล้วเรียกไลค์ได้พลุแตก ไม่หลุดเทรนด์กระแสโลก  แต่ละดีไซน์เป็นอย่างไรมาดูกัน

Multiple Brand Color Schemes 
เทคนิคนี้เป็นการใช้สีอัตลักษณ์ของแบรนด์เพียง 2-3 สี ในการออกแบบ  เพื่อตอกย้ำการจดจำในอัตลักษณ์ในแบรนด์ของคุณ จะว่าไปเทคนิคนี้ก็เหมือนเป็นเทคนิคสากลที่ใช้มาเนิ่นนานแต่นิยมไม่เสื่อมคลาย  




Color Gradients are making a come back.  
เทคนิคการไล่โทนสี เทคนิคที่ทำแล้วดูดีมีศิลปะ ดูแล้วจุดประกายไอเดียสร้างสรรค์ พลิ้วไหว รู้สึกเป็นอิสระ แสดงถึงมิตรภาพที่แสนอบอุ่นได้เป็นอย่างดี  




Better Branded social Media Images
 สื่อโซเชี่ยลมีเดีย กลายมาเป็นสื่อทรงอิทธิพลสร้างการจดจำแบรนด์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ และที่สำคัญ กลับกลายเป็นสิ่งที่สร้างการจดจำ สร้างยอดผู้ติดตามได้มากกว่าการใช้โลโก้ได้ในบางสถานการณ์อีกด้วย อาจจะเป็นเพราะคนในยุคดิจิตอล เสพสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้น  จนถึงขั้นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว  มากกว่านั้นสื่อโซเชี่ยลเริ่มมีบทบาทในแทบธุรกิจไปแล้วโดยปริยาย



Unconventional Color Everywhere … Bold color
บางครั้งการใช้ใช้ฟอรต์หนา ตัวเขียน และเน้นตัวใหญ่ๆ ส่วนพื้นหลังเติมลูกเล่นด้วยสีผสมแปลกๆ แต่ขอให้สีมีความใกล้เคียงกับสีของแบรนด์  โดยเน้นโทนสีสว่างๆ หรือโทนสีกลางๆ (Neutral  Color Schemes)  เพียงเท่านี้นอกจากจะเตะตา แล้วยังสร้างการจดจำแบรนด์ได้แบบตราบตรึงนาน ดูๆไปก็คล้ายการพาดหัวข่าวหน้า 1 หนังสือพิมพ์ก็ว่าได้







Bold & Handwritten Fonts Dominate.
เชื่อไหม ว่าตัวอักษรแบบลายมือ ที่มีขนาดใหญ่ ตัวหนา สามารถดึงความสนใจ  ปลุกกระแส และกระตุ้นให้เกิดการติดตามได้อย่างน่าอัศจรรย์ แถมจดจำได้นานเท่านาน






More custom Illustration
เทรนด์นี้เหมาะกับยุคดิจิตอลได้เป็นอย่างดี เพราะเทคนิคนี้จะเป็นการสร้างการจดจำโดยใช้ภาพเป็นการเล่าเรื่อง และภาพที่ว่า คือการออกแบบไอคอนในแบบขอแบรนด์เอง เน้นใช้เทคนิคกราฟฟิค มาสร้างตัวละครในการเล่าเรื่อง  


 



Better GIFs, Less than reactions

เทคนิคต่อมาที่พบเห็นในโลกอินเตอร์เน็ตมากในปัจจุบันคือ  การใช้ภาพที่แสดงปฏิกิริยาตอบสนองกับบางสิ่งบางอย่าง  เพื่อใช้ในการถ่ายทอดอารมณ์  ความรู้สึก เสมือนเป็นการสร้างปฏิสัมพันธ์โดยการใช้ภาพนั่นเอง 







Cinemagraphs are gaining more traction.
วิธีใช้ภาพเล่าเรื่องให้น่าสนใจกว่าเดิมที่เชื่อว่าจะเป็นกระแสใหม่สำหรับปีนี้  เพราะภาพที่ดีจะมีจุดดึงดูดในตัวของมันเองผสานกับความรวดเร็วของวิดีโอ ในจุดที่ก้าวผ่านความน่ารำคาญของปุ่ม play ไปแล้ว  ว่าแต่ Cinemagraphs คืออะไร   คำว่า Cinemagraphs มาจากการรวมคำของ Cinema (ภาพยนต์หรือวิดีโอ)และ Photograph (ภาพนิ่งหรือภาพถ่าย) กลายมาเป็นภาพถ่ายมหัศจรรย์ที่มีบางส่วนของภาพขยับได้ การผสานกันอย่างลงตัวของภาพนิ่งและองค์ประกอบที่เคลื่อนไหว กลายเป็นความงดงามในการถ่ายทอดเรื่องราวในภาพได้อย่างล้ำลึกและดึงดูดความสนใจจากคนดูได้เป็นอย่างดี สำหรับ Cinemagraphs  ที่ดีควรเป็นเช่นไรงั้นหรือ คำตอบคือ ควรสั้น กระชับ งดงาม เปี่ยมล้นครบความหมาย 





 ขอขอบคุณเหล่าอาจารย์ นักเรียนน่ารักๆ จาก #วิทยาลัยนานาชาติราฟเฟิลส์ที่มาแบ่งปันความรู้ให้




More Information :
Raffles International College Bangkok
T: (+66) 2-021-5666
Email: rbk-info@raffles-design-institute.com
www.raffles.ac.th
Facebook I Line I IG I Twitter I Youtube I Pinterest :
@Rafflesbkk

มีใครรู้จัก Raffles International College Bangkok บ้าง เค้าเป็นสถาบันด้านแฟชั่นดีไซน์ และออกแบบจริงๆหรอ???

         

             หากน้องๆ กำลังมองหาสถาบันการศึกษาด้านการสร้างนักธุรกิจด้านแฟชั่นดีไซน์ และออกแบบหลักสูตรนานาชาติที่เรียนในประเทศไทยเพียง 3 ปี แต่ได้รับวุฒิปริญญาตรีจากประเทศ อังกฤษ และหากสนใจเรียนต่อปริญญาโทก็สามารถจบได้ภายใน 1 ปีอีกด้วย   ทางลัดสู่การเป็นนักธุรกิจ Raffles International College คือคำตอบที่ดีที่สุดของคุณ !!!!







มาทำความรู้จักกับ Raffles International College Bangkok ให้มากขึ้น




             Raffles International College  หรือ วิทยาลัยนานาชาติราฟเฟิลส์ กรุงเทพฯ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2546 ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของ Raffles Education Corporation และเป็นสถาบันชั้นนำทางด้านการศึกษาที่มีสาขาอยู่ใน14 ประเทศทั่วโลก อาทิ ประเทศออสเตรเลีย อิตาลี อเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ จีน อินเดีย สิงคโปร์ ฯลฯ รวมถึงประเทศไทย โดยเปิดการเรียนการสอนในหลายสาขาวิชาด้วยหลักสูตรภาษาอังกฤษทั้งหมด วิทยาลัยนานาชาติราฟเฟิลส์ สถาบันชั้นนำทางด้านความคิดและการออกแบบ  ซึ่งได้รับรางวัลชั้นนำระดับนานาชาติหลายรางวัล เปิดการเรียนการสอนทางด้านการออกแบบ อาทิ สาขาวิชาการออกแบบแฟชั่น สาขาวิชาการตลาดแฟชั่น สาขาวิชาการออกแบบกราฟฟิก สาขาวิชาการออกแบบและตกแต่งภายใน สาขาวิชาการออกแบบมัลติมีเดีย และสาขาวิชาการออกแบบผลิตภัณฑ์ และสาขาวิชาทางด้านการบริหารธุรกิจอีก สาขาวิชา








ารเรียนการสอนที่สถาบันนานาชาติราฟเฟิลส์แตกต่างจากที่อื่นอย่างไร


             ที่ราฟเฟิลส์ เราฝึกให้นักศึกษาเรียนรู้ประสบการณ์การทำงานจริง ด้วยการเรียนทั้งภาคทฤษฎี  แต่เน้นภาคปฏิบัติเพื่อเตรียมพร้อมในการก้าวสู่โลกแห่งการทำงานจริง  โดยเฉพาะในภาคการศึกษาสุดท้ายที่ทางเรามีวิชาฝึกงาน  เพื่อจะช่วยนักศึกษาหาสถานที่ฝึกงานก่อนจบการศึกษา น้อง ๆ จะได้รับประสบการณ์ที่ประเมินค่ามิได้ ทั้งประวัติการทำงาน ผลงาน และเครือข่ายทางธุรกิจเพื่อการทำงานจริงในอนาคต   นอกจากนั้นที่ราฟเฟิลส์ยังมีวัฒนธรรมที่หลากหลาย เพราะนักศึกษาและอาจารย์ของเรามาจากหลายประเทศทั่วโลก ที่สำคัญคือ  หลักสูตรการศึกษา ได้รับการออกแบบ วิจัย  พัฒนามาจากสำนักงานใหญ่ในต่างประเทศ  โดยทุกหลักสูตร  รวมทั้งเนื้อหาวิชาของราฟเฟิลส์จะได้รับการปรับปรุงให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจ  เทคโนโลยีให้ทันสมัยอยู่เสมอ  และอีกสิ่งที่สำคัญ คือ  เรามีระบบมาตรฐานการวัดคะแนนที่ได้มาตรฐาน  เพื่อรักษาคุณภาพผู้เรียนให้มีครบทั้งความรู้ ความสามารถ ความชำนาญ  ทักษะที่มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลสูงสุด  เพื่อพวกเขา จะได้พร้อมก้าวเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือเข้าสู่โลกของการทำงานได้ทันทีนับตั้งแต่สำเร็จจากรั้ววิทยาลัย .......
           
                              





           ปัจจุบันสถาบันนานาชาติราฟเฟิลส์ย้ายจากสีลมไปอยู่ที่วิทยาเขตบางนา  ซอยบางนา-ตราด 37 ถัดจากแยกอุดมสุขไปประมาณ 1 ป้ายรถเมล์ ทางเข้าจะอยู่ฝั่งตรงข้ามอาคาร Inter Link  จุดสังเกตเด่นชัดคือ ปากซอยมีห้างIndex Living Mall  และเป็นทางเข้าเดียวกับคอนโดฯ Parkland  จากนั้นก็ตรงเข้าซอย เลี้ยวขวา 2 แยก เข้าไปลึกประมาณ 500 เมตร พอไปถึงซอยเปรมฤทัย 10   ก็จะเห็นอาคารสูงใหญ่  รโหฐาน  ของอาณาจักรราฟเฟิลส์  ที่มีทั้งฝั่งโรงเรียนนานาชาติ (Raffles American School : RAS)  กับวิทยาเขตวิทยาลัยนานาชาติราฟเฟิลส์ (Raffles International College Bangkok : RIC)  อยู่ติดกัน  สำหรับวิทยาเขตใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น  สวย ร่มรื่น  กว้างขวาง  มีที่จอดรถจำนวนมากทั้งนอกอาคาร และชั้นใต้ดิน  เพื่อเตรียมรองรับจำนวนนักศึกษาและคณาจารย์ที่มีจำนวนมากขึ้นในแต่ละปี  ที่วิทยาเขตบางนา เรามีพื้นที่กว้างขวาง ทั้งห้องเรียนและพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ สื่อการเรียนการสอนอันทันสมัย ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านการเรียนการสอน นอกจากนี้ยังสะดวกสบายด้วยระบบสาธารณูปโภคที่ดี สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับนักศึกษา  

         สำหรับด้านการเดินทาง  วิทยาลัยราฟเฟิลส์ ก็ตั้งอยู่ติดกับถนนบางนา - ตราด ถนนไฮเวย์ใหญ่ เชื่อมต่อถนนหลายสายมุ่งสู่ภาพตะวันออกเฉียงใต้ของไทย ที่มีจังหวัดและแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงมากมาย  อาทิ พัทยา  บางแสน ระยอง  ฉะเชิงเทรา  ดังนั้น  วันหยุดสุดสัปดาห์ก็ง่ายที่จะไปท่องเที่ยวพักผ่อน  หรืออาจารย์   นักเรียนต่างชาติที่ต้องการไปดำเนินการเรื่องการขอต่อวีซ่่าก็ใช้เวลาเดินทางเพียง 2.5 ชั่วโมงเท่่านั้น       อีกทั้ง  สะดวกทั้งผู้ขับรถส่วนตัว  หรือใช้ระบบขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าบีทีเอส  รถเมล์ก็คล่องตัว อ้อ!! ที่ขาดไม่ได้คือ  ราฟเฟิลส์มีรถตู้รับ - ส่งฟรีจากวิทยาลัย ไปรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีอุดมสุขให้อีกด้วย  ถ้าสนใจเข้ามาเยี่ยมชมสถานที่ก่อนตัดสินใจ  สามารถโทร.สอบถามเวลาเที่ยวรถให้บริการได้ด้วย  








              




              วิทยาลัยนานาชาติราฟเฟิลส์ กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งใน 28 วิทยาเขตของ Raffles Education Corporation Limited ที่มีสาขาอยู่ใน 26 เมือง ใน 14 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย โดยเปิดการเรียนการสอนด้วยหลักสูตรภาษาอังกฤษทั้งหมด หลักสูตรการเรียนการสอนที่ราฟเฟิลส์ใช้ระยะเวลาเรียนทั้งสิ้น ปี ในประเทศไทย เมื่อนักศึกษาเรียนจบ ปีแรกจะได้วุฒิอนุปริญญาขั้นสูง หรือ Advanced Diploma และหากเรียนจบปีสุดท้ายจะได้วุฒิปริญญาตรี Bachelor Degree จาก University of Northumbria มหาวิทยาลัยชื่อดังที่มีวิทยาเขตอยู่ในเมืองนิวคาสเซิล  ประเทศอังกฤษ นอกจากนี้หากน้องๆ อยากได้วุฒิปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยประเทศไทยก็สามารถเลือกเรียนเพิ่มที่วิทยาลัยนานาชาติราฟเฟิลส์อีก 1 ปี หรือจะเรียนต่อปริญญาโทเพิ่มก็ใช้เวลาเพียง 1 ปี  ซึ่งถ้าเปรียบเทียบระยะเวลาหลักสูตรการเรียนปริญญาตรี - โทในไทย กับที่นี่จะพบว่า คุ้มค่ากับการลงทุนอย่างมาก เพราะเรียนที่วิทยาลัยนานาชาติราฟเฟิลส์ จากนั้นต่อยอดกับมหาวิทยาลัยในเครือข่าย ใช้เวลาเพียง 4 ปี ...แต่จบปริญญาโท (คือ 3 ปีสำหรับปริญญาตรี + 1 ปี สำหรับปริญญาโท) แต่ถ้าเป็นหลักสูตรของมหาวิทยาลัยอื่นๆในไทย เราจะต้่องใช้เวลาเรียนทั้งสิ้น 6 ปี (คือ 4 ปีสำหรับปริญญาตรี + 2 ปี สำหรับปริญญาโท) ดังนั้น  จึงไม่แปลกที่ผู้เรียนจบจากที่นี่  ประสบความสำเร็จ  เป็นเจ้าของธุรกิจสมัยใหม่ในยุค Start Up Boomer  ได้เร็วกว่าเพื่อนที่เรียนจบในวัยไร่เรี่ยกัน หรือจบประถมมาพร้อมกัน  

             จุดเด่นของราฟเฟิลส์ที่เป็นจุดดึงดูดให้มีผู้สนใจเข้ามาเรียน  อีกอย่างคือ ที่นี่ถือว่าเป็น Global Education Networking  แห่งแรกๆ ของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ เพราะด้วยความที่มีสาขาในหลายประเทศ  ดังนั้น  เด็กนักเรียนที่ต้องการเพิ่มทักษะด้านภาษา และวัฒนธรรมต่างประเทศสามารถขอส่งตัวเลือกเรียนต่อที่สาขาอื่นได้ตลอดหลักสูตร อาทิ  นักเรียนชั้นปีที่ 2 ขอส่งตัวไปเรียนต่อที่ประเทศสิงคโปร์ และเรียนต่อปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษก็ทำได้ง่าย สะดวก พร้อมดำเนินการ ให้คำปรึกษา และการสนับสนุนให้ช่วยเหลือโดยทีมงานมืออาชีพ




          ถ้าน้องๆ หรือพ่อแม่ผู้ปกครองที่อยากให้ลูกหลานมีการศึกษาที่ดี  มีคุณภาพเทียบเท่าเรียนต่อในต่างประเทศ   ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนตั้งแต่อายุยังน้อย  ด้วยการลงทุนที่คุ้มค่าทั้งเงิน และเวลาเมื่อเปรียบเทียบกับหลักสูตรพื้นฐานในประเทศไทยทั่วๆ ไป  ทางลัดสู่ความสำเร็จนี้ เปิดกว้าง  เตรียมพร้อมไว้หมดแล้วที่ วิทยาลัยนานาชาติราฟเฟิลส์ กรุงเทพฯแห่งนี้ 

Raffles International College Bangkok ..... Success By Design



Tel : (+66) 2-021-5666 













6   Steps to be Fashion Designer บันได 6 ขั้นสู่อาชีพนักออกแบบแฟชั่นเสื้อผ้ามือพระกาฬ   ปัจจุบันนี้ จะสังเกตเห็นว่าหลายคนพยาย...